Written by 8:49 am ความรู้, สุขภาพ

6 สูตรแก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งง่าย ๆ ด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ

วันนี้เรานำสูตรธรรมชาติแก้หนังศีรษะแห้ง มาให้ผู้ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับคันหนังศรีษะ มีรังแค ให้ลองนำไปทำดู ทำตามด้วยตัวเองง่าย ๆ ตามนี้เลย

men with dandruff in his hair closeup 2022 10 10 19 16 56 utc 1

หนังศีรษะแห้ง คือ ปัญหาที่สร้างความรำคาญให้กับเจ้าตัว และยังทำให้น่าอายแก่สายตาคนอื่น ๆ เมื่อเกิดอาการคันยิบ ๆ จนต้องเกาศีรษะอยู่บ่อย ๆ แถมยังมีแผ่นศีรษะที่หลุดลอกร่วง กลายเป็นรังแค ทำให้ความมั่นใจลดลงฮวบจนแทบไม่มีเหลือ

วันนี้เราจึงนำ สูตรธรรมชาติแก้หนังศีรษะแห้ง มาให้ผู้ที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมร่วง คันหนังศรีษะ ให้ลองนำไปทำดู ไม่ต้องห่วงผลข้างเคียง เพราะทุกสูตรล้วนใช้วัตถุดิบธรรมชาติ ไร้สารเคมี ทำตามด้วยตัวเองง่าย ๆ ด้วยสูตรต่อไปนี้เลยค่ะ 

1. แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งด้วยน้ำมันมะพร้าว

lady sitting on the couch looks in the mirror and 2023 03 18 00 14 10 utc 1

น้ำมันมะพร้าว สรรพคุณสารพัดประโยชน์ เพราะช่วยบำรุงผิวพรรณ สุขภาพ ไปตลอดจนถึงเส้นผมและหนังศีรษะ โดยน้ำมันมะพร้าวมีฤทธิ์ในการต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อรา ลดการติดเชื้อบนหนังศีรษะ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับนหนังศีรษะที่แห้งลอกได้เป็นอย่างดี 

วิธีทำ

หยดน้ำมันมะพร้าวลงบนหนังศีรษะโดยตรง แล้วนวดเบา ๆ ให้ทั่ว จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ก่อนจะล้างออกด้วยการสระผมตามปกติ  

หลังจากที่ใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงหนังศีรษะเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและหนังศีรษะ และยังทำให้ผมนุ่มลื่นขึ้นอีกด้วย 

2. แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งด้วยว่านหางจระเข้ 

ว่านหางจระเข้ เป็นสมุนไพรที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยลดการระคายเคืองผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้น จึงช่วยบรรเทาอาการปัญหาหนังศีรษะแห้งได้ และยังบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี 

วิธีทำ

นำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก แล้วนำวุ้นขาว ๆ ข้างในไปล้างให้สะอาด จากนั้นนำเนื้อว่านหางจระเข้มาขยี้ให้ทั่วหนังศีรษะและเส้นผม และนวดเบา ๆ ให้ทั่ว ก่อนจะหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

3. แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งด้วยกล้วยหอม 

กล้วยหอม ผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และยังดีต่อผิวพรรณ เพราะกล้วยหอมให้ความชุ่มชื้น มีฤทธิ์ต้านจุลชีพตามธรรมชาติ หากหมักผมด้วยกล้วยหอมเป็นประจำ จะช่วยแก้ปัญหาหนังศีรษะแห้ง และไร้รังแคคอยกวนใจอีกด้วย 

woman with hair oil bottle woman touching her hea 2021 12 09 17 51 23 utc 1

วิธีทำ

บดกล้วยหอมให้ละเอียด แล้วเติมน้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันมะกอก 2 – 3 ช้อนโต๊ะ คนผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาทาให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ จากนั้นนวดเบา ๆ ก่อนจะหมักทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

4. แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งด้วยอะโวคาโด

อะโวคาโด ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และยังมีรสมัน นัว อร่อยถูกปากใครหลายคน แต่ด้วยอะโวคาโด้มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี เมื่อนำอะโวคาโด้มาใช้หมักผม ก็จะช่วยปรับหนังศีรษะแห้งให้ฟื้นคืน ปลอบประโลมหนังศีรษะ ให้กลับมาชุ่มชื้น ไม่ลอกขุย และบรรเทาอาการคันศีรษะ 

วิธีทำ 

นำเนื้ออะโวคาโดมาบดให้ละเอียด ผสมกับน้ำมันมะกอก 2 – 3 หยด คนผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาทาและนวดให้ทั่วหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 -15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือใครที่มีน้ำมันอะโวคาโดอยู่แล้วก็ใช้หยดลงบนหนังศีรษะและทาบำรุงได้เลยค่ะ 

5. แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งด้วยน้ำมันมะกอก + เบกกิ้งโซดา 

สูตรนี้ใช้ส่วนผสมระหว่าง น้ำมันมะกอก ที่ให้ความชุ่มชื้น และ เบกกิ้งโซดา ที่มีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย และต่อต้านเชื้อรา เมื่อนำมาผสมและใช้หมักศีรษะ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังศีรษะที่ตายแล้วให้หลุดลอกออก และเติมความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิวหนังศีรษะใหม่ที่ขึ้นทดแทน และช่วยลดอาการคันจากรังแคได้อีกด้วย 

top view of milk cream and egg in a small bowl 2022 11 08 04 58 08 utc 1

6. แก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งด้วยไข่ไก่ + โยเกิร์ต 

ไข่ไก่และโยเกิร์ต หาได้ง่าย ๆ จากในครัว ซึ่งวัตถุดิบทั้งสองตัวนี้ช่วยบำรุงหนังศีรษะได้เป็นอย่างดี โดยโยเกิร์ตจะทำหน้าที่ผลัดเซลล์ผิว และปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน ในขณะที่ไข่ไก่อุดมไปด้วยโปรตีนและไขมัน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องหนังศีรษะ เมื่อใช้ร่วมกัน จะช่วยขจัดปัญหาหนังศีรษะแห้ง และบอกลารังแคเสียที 

วิธีทำ 

ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 3 – 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง ตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำมาทาให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ จากนั้นนวดหนังศีรษะเบา ๆ ให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

สูตรแก้อาการศีรษะแห้งด้วยวัตถุดิบธรรมชาติที่นำมาฝากในวันนี้ ส่วนใหญ่สามารถหาได้จากในครัว หรือในตู้เย็น ซึ่งเป็นของที่เรากินกันเป็นประจำกันอยู่แล้ว แถมวิธีทำก็ง่ายมาก ๆ สามารถนำไปทำตามได้ไม่ยากเลย และใช้เวลาไม่นานอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อยารักษาแพง ๆ แต่ถ้าหากทำสูตรไหนก็ไม่ได้ผล อาจต้องไปพบแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพราะอาจมีสาเหตุหรือเกี่ยวข้องกับโรคอื่น ๆ และจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมค่ะ 

(Visited 18 times, 1 visits today)
Close